ไมนซ์ ของกุนซือ โบ เฮนริคส์เซ่น สู้เต็มที่ก่อนพ่าย เลเวอร์คูเซ่น หวุดหวิด ส่วนในถ้วยนี้เริ่มต้นดีบุกชนะ โอโมเนีย นิโคเซีย 1-0
ความพร้อมล่าสุดยังไม่มี อ็องโตนี่ คาชี่, เนลสัน ไวเปอร์ และ มักซิม ดาล บาดเจ็บเหมือนเดิม แต่ว่าจะได้ โรบิน เซนท์เนอร์ กลับมาเฝ้าเสาตามปกติ หลังพลาดเกมลีกล่าสุดเพราะติดโทษแบน
ซรินสกี้ โมสตาร์ คุมทัพโดย อีกอร์ สตีมัช ไล่ยิงชน ลินคอล์น ขาดลอย 5-0 ในเกมแรกของถ้วยนี้ เป็นการชนะนัดที่ 3 จาก 4 นัดหลังในทุกรายการ
ความพร้อมล่าสุดขาดเพียง ไทเลอร์ บูเรย์ ที่บาดเจ็บ ตำแหน่งอื่นพร้อมลุย โดยจะมี คาร์โล อบราโมวิช, อันโตนิโอ อีวานซิช, มาริโอ ชูเซ่ และ เนมานย่า บิลบิย่า เล่นเกมรุกร่วมกัน
(3-4-2-1) : โรบิน เซนท์เนอร์ – แดนนี่ ดา คอสต้า, ชเตฟาน เบลล์, โดมินิค คอห์ร – ซิลวาน วิดมาร์, นาดีม อามีรี่, ไคชู ซาโนะ, ฟิลลิปป์ เอ็มเวเน่ – พอล เนเบล, อี แจ-ซอง – เบเนดิคต์ เฮลเลอร์บัค
(4-2-3-1) : โกรัน คาราชิช – มาร์โก วรานโควิช, สโลโบดาน ยาคอฟเลวิช, เฮอร์โวเย่ บาราซิช, เปตาร์ มามิช – อีกอร์ ซาวิช, สเตฟาโน่ ซูร์ดาโนวิช – คาร์โล อบราโมวิช, อันโตนิโอ อีวานซิช, มาริโอ ชูเซ่ – เนมานย่า บิลบิย่า
: เมว่า อารีน่า
: เจมี่ โรบินสัน (ไอร์แลนด์เหนือ)
ทั้งสองทีมชนะมาในนัดแรก แต่ ไมนซ์ มีโอกาสคว้าชัยต่อเนื่องเพราะเกรดบอลเหนือกว่าและได้เล่นในบ้าน ขณะที่ ซรินสกี้ แม้ชนะขาดในนัดก่อน แต่เจองานยากกว่าหลายเท่า ดังนั้นเชื่อว่า ไมนซ์ จะใช้ความได้เปรียบในบ้านเบียดเอาชนะได้สำเร็จ