บอสเนียฯ ของกุนซือ เซอร์เก บาร์บาเรซ ได้แค่เสมอ ไซปรัส ในนัดล่าสุดเมื่อเดือนที่แล้ว แต่ ออสเตรีย ก็สะดุดด้วยทำให้ตามหลังเพียง 2 คะแนน มีโอกาสแซงเป็นแชมป์กลุ่มเช่นกัน
ทีมชุดนี้ไม่มี เออร์เมดิน เดมิโรวิช ดาวยิงจาก สตุ๊ตการ์ท ที่ยังไม่หายเจ็บกลับมา เช่นเดียวกับ ฮาริส ฮายราดิโนวิช และ อาเดรียน เลออน บาริซิช
อย่างไรก็ตามนี้ นัดนี้มีผู้เล่นติดโทษแบน 2 รายคือ อีวาน ซูนยิช กองกลาง และ นิฮาด มูยาคิช กองหลัง แต่แนวรุกยังมี เอดิน เชโก้ หัวหอกวัย 39 ปี พร้อมช่วยทีม
ทัพ “ผีดิบ” ของกุนซือ มีร์เซีย ลูเซสคู มีอยู่ 10 คะแนนจาก 6 นัดแรก ตามหลัง บอสเนียฯ 3 คะแนน นัดนี้ต้องเสมอเป็นอย่างน้อยไม่งั้นจะหมดลุ้นทันที
ความพร้อมล่าสุดไม่มี ราดู รากูชิน กองหลังจาก สเปอร์ส ที่เจ็บยาว เช่นเดียวกับ นิโคเล สแตนซิอู กองกลางจอมเก๋าจาก เจนัว
แต่ เดนิส ดรากุส กองหน้าตัวเก่ง ฟิตกลับมาพร้อมช่วยทีมอีกครั้งหลังพลาดช่วยทีมเมื่อเดือนที่แล้ว ส่วนแกนหลักอื่นอย่าง ยานิส ฮาจี้, รัซวาน มาริน, เดนนิส มาน, วลัด ดราโดเมียร์ พร้อมช่วยทีมทั้งหมด
(4-3-3) : นิโคล่า วาซิลจ์ – อามาร์ เมมิช, นิโกล่า คาติช, เดนิส บูร์นิช, เดนนิส ฮัดซิคาดูนิช – ซาเหม็ด บาซดาร์, อาร์มิน กิโกวิช, อีวาน บาซิช – เอสเมียร์ บายรักทาเรวิช, เอดิน เชโก้, อามาร์ เดดิช
(4-2-3-1) : ยอนุต ราดู – อันเดร ราติอู, มิไฮ โปเปสคู, เวอร์จิล กีต้า, อเล็กซานดรู ซิบซิอู – ยานิส ฮาจี้, รัซวาน มาริน – เดนนิส มาน, วลัด ดราโดเมียร์, วาเลนติน มิไฮล่า – เดนิส ดรากุส
: บิลิโน่ โปลเย่ สเตเดียม
: ไมเคิ่ล โอลิเวอร์ (อังกฤษ)
บอสเนียฯ เคยบุกชนะนัดแรกก็จริง แต่นัดนี้กลับมาเล่นในบ้านไม่น่าจะง่าย เพราะโรมาเนียมุ่งมั่นเต็มที่เพื่อรักษาโอกาสลุ้นต่อถึงเกมสุดท้าย แถมสภาพทีมผู้มาเยือนพร้อมกว่าและมีทรงบอลที่มั่นคงกว่าช่วงหลัง ดูแล้วโรมาเนียสู้ได้สูสี ไม่น่าเป็นรอง ก่อนฮึดสู้สุดใจเก็บผลเสมอกลับบ้านได้สำเร็จ